google8c98f532c11560ba.html

ดูบทความข้อแตกต่างของหลังผ้าทั้ง 4 ชนิด

ข้อแตกต่างของหลังผ้าทั้ง 4 ชนิด

หมวดหมู่: ข่าวสาร

     แม้เนื้อผ้าจะเป็นเนื้อผ้าเดียวกัน แต่หลังผ้าต่างชนิดกัน ทำให้ผ้านั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป การนำไปใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังผ้านั้นแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด หลักๆ คือ หลังพียู, หลังพีวีซี, หลังสป้องค์ และ หลังผ้า

 

หลัง PU

     หลังผ้าแบบ PU คือ หลังผ้าที่ถูกเคลือบด้วยน้ำยา PU หลังจากทอเสร็จแล้ว มีวิธีสังเกตง่ายๆ โดยหลังผ้า PU จะมีลักษณะและลวดลายเหมือนกับด้านหน้าของผ้านั้นๆ แต่จะมีความเงามากกว่า ความแข็งแรงของผ้าจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาที่เคลือบ ซึ่งมีหลายเกรด แต่โดยรวมแล้วหลังผ้าชนิดนี้จะแข็งแรงน้อยกว่าหลังผ้าชนิดอื่นๆ ผ้าที่มีหลังแบบนี้จะมีความบางและเบา

 

หลังพียู

 

ข้อดี คือ ทำให้ตัวผ้าไม่แข็งเกินไป สามารถพับได้ง่าย เหมาะสำหรับทำกระเป๋าที่พับได้ หรือ ทำเป็นผ้าซับใน

ข้อเสีย คือ เพราะความบางของหลังผ้าชนิดนี้ จึงทำให้รับน้ำหนักได้น้อย และทนทานได้น้อยกว่าหลังผ้าชนิดอื่นๆ

 

PVC

     หลังผ้าแบบ PVC จะเป็นการนำแผ่นยาง PVC มาประกบที่ด้านหลังของผ้า ซึ่งจะมีทั้งยางแบบเรียบและแบบหมากรุก โดยส่วนใหญ่แบบหลังยางเรียบจะมีความแข็งแรงและคงทนมากกว่าแบบหมากรุก

 

หลังพีวีซีตารางหมากรุก

 


หลังยาง

 

ข้อดี คือ หลังผ้าชนิดนี้จะมีคุณสมบัติกันน้ำซึมได้ เพราะด้านหลังผ้าที่เป็นยางPVC หลังผ้าชนิดนี้จะมีความเหนียวสามารถรับน้ำหนักได้เยอะ มีความแข็งแรงและมีความทนทานมากที่สุดในทั้ง4แบบ

ข้อเสีย คือ มีน้ำหนักมาก ทำให้สินค้าที่ผลิตออกมาค่อนข้างมีน้ำหนัก ผิวสัมผัสค่อนข้างกระด้าง

 

SPONGE

     หลังผ้าแบบ SPONGE จะเป็นการนำแผ่นยางPVC มาประกบไว้ที่ด้านหลังของผ้าเช่นกัน แต่ต่างจากหลังแบบPVC ตรงที่ยางนั้นจะถูกทำให้โป่งพอง ทำให้หลังผ้าแบบนี้มีความหนามากที่สุด โดยด้านในของหลังแบบ SPONGE นี้จะมีลักษณะกลวงคล้ายฟองน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกของหลังผ้าชนิดนี้

 


หลังสป้องค์

 

ข้อดี คือ เวลานำไปผลิตสินค้า สินค้าจะอยู่ทรงที่สุดในบรรดาหลังผ้าทั้งหมด เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการให้อยู่ทรง เช่น กระเป๋าเครื่องสำอาง ตู้ใส่ของเอนกประสงค์

ข้อเสีย คือ พับยาก ทำให้ชิ้นงานหนา ผิวสัมผัสดูแข็ง

 

หลังผ้า

     หลังผ้าจะมีลักษณะเห็นเป็นเส้นด้ายทอสลับกันไปมา โดยส่วนใหญ่ยิ่งเส้นด้ายมีความหนาและถี่มากเท่าไร ยิ่งทำให้ผ้าแข็งแรงและคงทนมากเท่านั้น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบหลังผ้า และ หลังขน โดยแบบหลังขนนั้น จะมีลักษณะเหมือนกับหลังผ้า แต่ต่างกันตรงที่จะเห็นเป็นขุยๆขนๆ ไม่ได้เห็นเป็นเส้นด้ายทอสลับกันไปมาอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้ผ้านั้นมีความนิ่มและยืดหยุ่นกว่าแบบหลังผ้าอยู่มาก

 

หลังผ้า

 


หลังขน

 

ข้อดี คือ หลังผ้าจะทำให้ผ้ามีความยืดหยุ่น ผิวสัมผัสไม่กระด้าง เหมาะสำหรับใช้หุ้มสินค้า เช่น เก้าอี้ออฟฟิศ เฟอร์นิเจอร์

ข้อเสีย รับน้ำหนักได้ไม่ค่อยเยอะเท่า pvc และ sponge

 

01 ธันวาคม 2560

ผู้ชม 18023 ครั้ง

Engine by shopup.com