google8c98f532c11560ba.html
ทุกวันนี้กระเป๋าได้ถูกออกแบบมาอย่างมากมายหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าพรีเมี่ยม กระเป๋าช็อปปิ้ง กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเอกสาร กระเป๋าแฟชั่น เป้ และอื่นๆ อีกมากมาย เหล่าแฟชั่นนิสต้าและดีไซน์เนอร์ทั้งหลายได้ช่วยกันระดมความคิด หาคำเรียกกระเป๋าแบบต่างๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน โดยจำแนกออกเป็นหมวดหมู่ตามรูปทรงและคุณลักษณะเฉพาะของกระเป๋านั้นๆ
ประเภทที่ 1: Backpack รูปแบบการใช้งานเหมาะสำหรับเพื่อสะพาย ไว้ที่หลัง จุดเด่นของกระเป๋าคือมีสาย 2 สายไว้สำหรับสะพายที่บ่าทั้ง 2 ข้าง บางครั้งเราอาจได้พบคำเหล่านี้ใช้เรียกกระเป๋าชนิดนี้เช่นกัน Rucksack, Knapsack, Packsack, Pack หรือ Bergen
ประเภทที่ 2: Baguette รูปทรงกระเป๋าเป็นทรงยาวเหมือนขนมปัง ฝรั่งเศส คือ ตัวกระเป๋ามักจะมีความยาวมากกว่าความสูง ส่วนใหญ่จะพบในกระเป๋าขนาดเล็ก-กลาง
ประเภทที่ 3: Bowler Bag หรือ Bowling Bag กระเป๋าเป็นทรงครึ่งวงรี เหมือนเป็นกระเป๋าใส่ลูกโบว์ลิ่ง ส่วนหูกระเป๋ามักจะทำจากสายหนังที่มีความแข็งแรง-ทนทาน
ประเภทที่ 4: Box Bag รูปทรงเหมือนกล่องทั่วไป มีทั้งแบบเหลี่ยมและกลม ตัวกระเป๋ามีเนื้อแข็ง ส่วนใหญ่ดีไซน์มาสำหรับกระเป๋าขนาดเล็ก-กลาง
ประเภทที่ 5: Briefcase มีลักษณะเป็นทรงแบนฐานแคบเหมือนกล่อง จุดประสงค์เพื่อใส่เอกสาร ปกติกระเป๋าสไตล์นี้จะดีไซน์ออกมาสำหรับให้ถือ แต่ก็อาจจะมีบางแบบที่ดีไซน์ให้มีสายสำหรับสะพายบ่าเพิ่มขึ้น เพื่อทำให้สะดวกมากขึ้น
ประเภทที่ 6: Bucket Bag ลักษณะรูปทรงเหมือนถัง อาจมีหูหิ้ว, ที่จับหรือที่ถือ 1 เส้น บางครั้งอาจมีการผสมผสานโดยการนำเอา Tote Bag เข้ามาร่วมตกแต่งด้วย
ประเภทที่ 7: Change Purse กระเป๋าใส่เงินขนาดเล็ก ที่บางครั้งก็อาจรวมถึงกระเป๋าสตางค์ที่มีช่องเก็บเศษเหรียญเงินทอนต่างๆ
ประเภทที่ 8: Clutch Bag กระเป๋าถือขนาดเล็กที่ไม่มีสายหรือที่ จับ รูปทรงส่วนใหญ่จะมีความกว้างมากกว่าความสูง และมักมีที่เปิด-ปิดอยู่ด้านบนของกระเป๋า สไตล์ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งเวลากลางวัน-กลางคืน รวมไปถึงในโอกาสงานปาร์ตี้ด้วย โดยส่วนมากมักจะถูกหนีบไว้ใต้รักแร้หรือถือธรรมดาปกติ
ประเภทที่ 9: Cosmetic Case Bag มีลักษณะคล้ายๆ เหมือนเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก รูปทรงก็มักจะคล้ายๆกับ Box Bag
ประเภทที่ 10: Demi Handbag กระเป๋าถือที่มีหูหิ้วหรือสายสะพายอยู่ ด้านบน โดยที่สายสะพายหรือหูหิ้วมีความยาวพอที่จะใช้คล้องไหล่ได้ แต่ก็จะไม่ยาวเท่ากับแบบ Handbag
ประเภทที่ 11: Doctor’s Bag บางครั้งอาจเรียกว่า Gladstone Bag ถูกดีไซน์มาให้เหมือนกระเป๋าของหมอ มีลักษณะรูปทรงเป็นแบบสามเหลี่ยม ปกติกระเป๋าสไตล์นี้จะมีหูจับสั้นๆ1-2 อัน ไว้สำหรับถือ ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้มีที่เปิดกระเป๋าอยู่ด้านบน เพื่อให้ง่ายต่อการใส่-หาของในกระเป๋า และช่วยให้มีพื้นที่ใส่ของได้เยอะมากขึ้นด้วย
ประเภทที่ 12: Drawstring Bag กระเป๋าที่มีที่เปิด-ปิดอยู่ด้านบน และเปิด-ปิดด้วยวิธีการรูดและคลายสายรัด
ประเภทที่ 13: Duffle Bag รูปทรงเป็นลักษณะเหมือนทรงกระบอกในแนว นอน ส่วนมากมักมีขนาดใหญ่-ใหญ่มากและมักจะทำจากวัสดุเนื้อนิ่ม เช่น ผ้าหรือหนัง จุดประสงค์ในการออกแบบ คือ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานเวลาเดินทาง บางครั้งจึงอาจเรียกกระเป๋าแบบนี้ว่า Weekend Bag
ประเภทที่ 14: Fanny Bag หรือ Hip/Waist Bag กระเป๋าแบบนี้ถูกดีไซน์ให้มีสายรัดหรือเข็มขัดสำหรับใช้รัดรอบเอว
ประเภทที่ 15: Flap Bag (Fold Over Lap Bag) กระเป๋าแบบนี้จะมีส่วนที่ยื่นออกมานอกตัวกระเป๋า เพื่อให้ใช้พับปิดลงมาเป็นส่วนเปิด-ปิดตัวกระเป๋า
ประเภทที่ 16: Hobo Bag ส่วนใหญ่ดีไซน์มาสำหรับกระเป๋าสะพาย ขนาดกลาง-ใหญ่ เมื่อมองจากด้านบนของกระเป๋าลงไป จะเห็นเป็นลักษณะรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว สายสะพายมีความยาวปานกลางจนถึงยาวมาก ทำให้กระเป๋าดูเหี่ยวๆห่อๆ
ประเภทที่ 17: Kelly Bag ถึงไม่บอกก็เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกัน ดีสำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ แต่ผู้ที่ทำให้กระเป๋า Kelly เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยม คือ เจ้าหญิง Grace แห่งโมนาโค (หรือ Grace Kelly นักแสดง Hollywood นั่นเอง) รูปทรงของกระเป๋าจะมีลักษณะเป็นทรงสามเหลี่ยม มีหูจับ 1 อัน และมีที่เปิด-ปิดกระเป๋าทำจากโลหะ
ประเภทที่ 18: Messenger Bag กระเป๋าลักษณะนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับ การใช้งานของบรรดาMessenger เพื่อไว้สำหรับใส่จดหมาย, เอกสารต่างๆ หรือหนังสือพิมพ์ที่จะนำส่ง ดังนั้นกระเป๋าจึงต้องมีขนาดใหญ่และมีสายสะพายที่ค่อนข้างยาวไว้สำหรับสะพาย คาดขวางลำตัว และจะมีฝาพับลงมาสำหรับเปิด-ปิดกระเป๋าที่ด้านหน้า แต่ในบางครั้งก็พบว่ามีการใช้ซิปสำหรับเปิด-ปิดกระเป๋าแทนก็ได้
ประเภทที่ 19: Pocket Book ลักษณะทรงแบนและพับได้ เพื่อไว้สำหรับใส่เงินหรือเอกสารส่วนตัว, บัตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนามบัตรหรือบัตรเครดิต เป็นต้น
ประเภทที่ 20: Pouchette กระเป๋าถือขนาดเล็กที่มีรูปทรงเป็นรูปไข่
ประเภทที่ 21: Quilted Bag กระเป๋าที่ทำจากหนังเนื้อนิ่มหรือวัสดุ อื่นๆ โดยมีเอกลักษณ์คือรอยเย็บที่ทำเป็นลวดลายตาข่าย ตามแบบที่เห็นกันในงานฝีมือ
ประเภทที่ 22: Satchel Bag กระเป๋าถือที่มีลักษณะเป็นรูปทรงสาม เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมคางหมู โดยส่วนมากมักมีขนาดกลาง-ใหญ่ มีที่หิ้วอยู่ด้านบน
ประเภทที่ 23: Shoulder Bag กระเป๋าสะพายบ่าแบบไหน แบรนด์ไหนก็ได้
ประเภทที่ 24: Signature Bag กระเป๋าที่กลายมาเป็นที่รู้จักกันดี เพราะตัว Logo และเอกลักษณ์หรือดีไซน์ของกระเป๋า โดยชื่อเสียงของดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบจะเป็นการรับรองคุณภาพของกระเป๋า ทำให้เกิดความเชื่อมั่น-เชื่อถือแก่ผู้ซื้อ
ประเภทที่ 25: Top Handle Bag กระเป๋าที่ออกแบบมาให้มีที่จับอยู่ด้านบน เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
ประเภทที่ 26: Tote Bag กระเป๋าที่ออกแบบมาสำหรับใช้เวลาไปเดิน เล่นที่ชายหาด, ช้อปปิ้ง หรือจะเป็นช่วงเวลาใดก็ได้ที่ออกไปข้างนอก โดยปกติกระเป๋าแบบนี้มักจะมีขนาดใหญ่ และมีที่จับ 2 อัน
ประเภทที่ 27: Wallet กระเป๋าพับที่มีขนาดเล็ก และมีช่องสำหรับใส่บัตรต่างๆและเงิน
ประเภทที่ 28: Wristlet กระเป๋าที่ออกแบบมาให้มีสายห้อยเพื่อเอาไว้คล้องข้อมือสำหรับถือ ลักษณะส่วนใหญ่มีความใกล้เคียงกับ Clutch
03 ตุลาคม 2560
ผู้ชม 35261 ครั้ง